สายโคแอกเซียล RG405 เป็นสายที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อส่งสัญญาณโดยมีการรบกวนน้อยที่สุด ประกอบด้วยสองส่วน คือ ส่วนกลางและส่วนนอก ส่วนกลางซึ่งเรียกว่าตัวนำจะทำหน้าที่ถ่ายโอนสัญญาณ และส่วนนอกจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันโดยขจัดสัญญาณรบกวนจากภายนอก ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากสัญญาณรบกวนสามารถลดทอนหรือบิดเบือนสัญญาณได้
เมื่อต้องใช้งานความถี่สูง เช่น สาย RF สายโคแอกเชียล RG405 มักเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากทำงานได้ดีกว่าสายโคแอกเชียลประเภทอื่นๆ ที่ความถี่สูงกว่า ความถี่ที่สูงขึ้นหมายความว่าสัญญาณสามารถเดินทางได้เร็วขึ้นและส่งข้อมูลได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสาย RG405 ที่มีความยืดหยุ่นสูง ความยืดหยุ่นนี้ทำให้เหมาะสำหรับการบิดและหมุนในกรณีใช้งาน เช่น เมื่อคุณต้องทำงานในพื้นที่แคบๆ เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์
ปัจจุบันสายโคแอกเซียล RG405 เป็นสายที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมายที่ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานความถี่สูง สายนี้มีการสูญเสียสัญญาณต่ำซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด ทำให้สามารถส่งสัญญาณในระยะไกลได้โดยไม่สูญเสียความชัดเจนหรือความแรง สัญญาณที่เดินทางในระยะไกลอาจอ่อนลง แต่ RG405 ช่วยให้สัญญาณผ่านได้แรงและชัดเจนกว่าสายอื่นๆ ส่วนใหญ่
นอกจากนี้ สายโคแอกเซียล RG405 ยังสามารถทนต่ออุณหภูมิที่รุนแรงได้ โดยสามารถทนต่ออุณหภูมิที่รุนแรงได้ ไม่ว่าจะร้อนหรือเย็นเกินไป และยังคงส่งสัญญาณได้โดยไม่เสี่ยงต่อความเสียหาย ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโครงการที่อาจต้องดำเนินการภายใต้สภาพอากาศที่เลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นวันฤดูร้อนที่ร้อนระอุหรือคืนฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับสำคัญบางประการที่คุณควรทราบหากคุณใช้สายโคแอกเซียล RG405 ก่อนอื่น เมื่อใช้สาย พยายามให้สายตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากสายตรงจะช่วยลดการสูญเสียสัญญาณและสัญญาณรบกวน ทำให้สัญญาณที่ส่งไปตามสายมีสัญญาณรบกวนน้อยลงขณะเดินทาง
สายโคแอกเซียล RG405 นี้มีความละเอียดอ่อนมาก ดังนั้นควรใช้ด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการงอ งอ หรือบิดงอของสาย เพราะจะทำให้ชิ้นส่วนภายในของสายเสียหายและลดคุณภาพลง นอกจากนี้ ควรดูแลให้สายไม่มีความชื้น สิ่งสกปรก และสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ เพราะปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของสายและอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ในระยะยาว
ลองคิดดูว่าสายเคเบิลของคุณต้องยาวแค่ไหน ระยะทางอาจส่งผลต่อการแพร่กระจายของสัญญาณ ดังนั้นควรเลือกสายเคเบิลที่มีความยาวเพียงพอสำหรับระยะทางที่ไกลออกไป เมื่อต้องจัดการกับสายเคเบิล ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมก็อาจกำหนดประสิทธิภาพได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณจะใช้สายเคเบิลกลางแจ้งหรือในสถานที่ที่มีอุณหภูมิเย็นหรือร้อนจัด ควรเลือกสายเคเบิลที่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้